Greenhouse Gas (GHG) คืออะไร ?

ความรู้

กุมภาพันธ์ 28, 2025

โลกของเรา เป็นดาวเคราะห์ที่มีอุณหภูมิเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แต่ในปัจจุบันนั้น โลกของเรากำลังอุ่นขึ้น เห็นได้จากน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือ เช่น กรีนแลนด์ และขั้วโลกใต้ เช่น แอนตาร์กติกา ละลายเร็วขึ้น โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่มากเกินไป ก๊าซเรือนกระจกมีทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ แล้วก๊าซเรือนกระจกคืออะไร? วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ

Greenhouse Gas (GHG) หรือ ก๊าซเรือนกระจก คืออะไร ?

Greenhouse Gas (GHG) หรือที่เรียกกันว่า ก๊าซเรือนกระจก คือ ก๊าซที่อยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งก๊าซเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของโลก GHG ทำหน้าที่เสมือนอนผ้าห่มที่ช่วยกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในชั้นบรรยากาศ เพื่อรักษาความสมดุลของอุณหภูมิ ก๊าซเหล่านี้สามารถดูดซับและปล่อยรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้โลกไม่ร้อนจัดในเวลากลางวันหรือเย็นจัดในเวลากลางคืน กระบวนการนี้เรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Gas Effect)

ก๊าซเรือนกระจกหลักๆ หรือ Greenhouse Gas มีอะไรบ้าง ?

คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide – CO₂)

  • แหล่งกำเนิด:
    • การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล (ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ)
    • โรงงานอุตสาหกรรม
    • การตัดไม้ทำลายป่า (เพราะต้นไม้ช่วยดูด CO₂)
    • การเผาขยะ/วัสดุอินทรีย์
  • คุณสมบัติ:
    • อยู่ในอากาศนาน 100–1,000 ปี
    • คิดเป็นก๊าซเรือนกระจกประมาณ 75% ของทั้งหมด
    • เป็นก๊าซที่มนุษย์ปล่อยออกมามากที่สุด
  • ผลกระทบ:
    • ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    • เป็นตัวหลักที่ทำให้เกิด ภาวะโลกร้อน

มีเทน (Methane – CH₄)

  • แหล่งกำเนิด:
    • การย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว
    • นาข้าว (การหมักของอินทรียวัตถุใต้น้ำ)
    • การสลายตัวของขยะอินทรีย์ในหลุมฝังกลบ
    • การขุดเจาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ
  • คุณสมบัติ:
    • อยู่ในบรรยากาศประมาณ 12 ปี
    • มีศักยภาพเรือนกระจก (GWP) มากกว่า CO₂ ประมาณ 25 เท่า
  • ผลกระทบ:
    • ทำให้โลกอุ่นเร็วขึ้นในช่วงเวลาสั้น
    • มีผลต่อโอโซนชั้นล่าง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพอากาศ

ไนตรัสออกไซด์ (Nitrous Oxide – N₂O)

  • แหล่งกำเนิด:
    • ปุ๋ยเคมีที่ใช้ในการเกษตร (โดยเฉพาะในดินชื้น)
    • การเผาชีวมวล เช่น ฟางข้าว กิ่งไม้
    • อุตสาหกรรมบางประเภท เช่น การผลิตไนลอน
  • คุณสมบัติ:
    • อยู่ในอากาศได้ 114 ปี โดยเฉลี่ย
    • มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนมากกว่า CO₂ ถึง 298 เท่า
  • ผลกระทบ:
    • ทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศ
    • มีผลกระทบต่อทั้งโลกร้อนและสุขภาพของมนุษย์

ก๊าซฟลูออริเนต (Fluorinated Gases)

  • กลุ่มหลัก:
    • HFCs (Hydrofluorocarbons): ใช้ในเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น
    • PFCs (Perfluorocarbons): จากอุตสาหกรรมชิพและเซมิคอนดักเตอร์
    • SF₆ (Sulfur hexafluoride): ใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้า เป็นฉนวนในหม้อแปลงไฟฟ้า
    • NF₃ (Nitrogen trifluoride): ใช้ในอุตสาหกรรมแผงโซลาร์เซลล์
  • คุณสมบัติ:
    • ศักยภาพเรือนกระจก สูงมาก:
    • HFCs ~ 1,000 เท่า
    • PFCs ~ 6,500–9,000 เท่า
    • SF₆ สูงสุดถึง 23,500 เท่า
    • อยู่ในอากาศได้ หลายร้อยถึงพันปี
  • ผลกระทบ:
    • แม้จะมีปริมาณน้อย แต่มีผลกระทบสูงมาก
    • ส่วนใหญ่เกิดจากอุตสาหกรรมและไม่สามารถย่อยสลายเองได้ในธรรมชาติ

แม้จะมีปริมาณในบรรยากาศน้อย แต่พลังในการกักเก็บความร้อนสูงมาก (บางชนิดมากกว่า CO₂ หลายพันเท่า!) และอยู่ในอากาศนานหลายพันปี

สรุปเทียบพลังเรือนกระจก (Global Warming Potential – GWP) แบบง่ายๆ

ก๊าซสัดส่วนในบรรยากาศGWP*
(เทียบกับ CO₂)
อายุในอากาศแหล่งกำเนิดหลัก
CO₂~75%1 เท่า100–1,000 ปีพลังงาน, ป่าไม้
CH₄~16%25 เท่า~12 ปีปศุสัตว์, ขยะ
N₂O~6%298 เท่า~114 ปีปุ๋ยเคมี
F-Gases<2%1,000–23,500 เท่าหลายร้อย–พันปีอุตสาหกรรม

ถ้าไม่มี Greenhouse Gas (GHG) หรือ มีน้อยจนเกินไป โลกจะเป็นอย่างไร ?

หากไม่มี Greenhouse Gas (GHG) โลกจะได้รับความร้อนโดยตรงจากดวงอาทิตย์ ไม่มีการกักเก็บความร้อน พื้นผิวโลกจะร้อนจัดในเวลากลางวัน เมื่อความร้อนถูกปล่อยออกไป รังสีความร้อนจะกระจายออกนอกโลกเกือบทั้งหมด ส่งผลให้เวลากลางคืนหนาวจัด อุณหภูมิบนโลกจะผันผวนอย่างรุนแรง จนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถดำรงอยู่ได้

การมี Greenhouse Gas (GHG) ในปริมาณที่เหมาะสม โลกจะเป็นอย่างไร ?

เมื่อโลกได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ Greenhouse Gas (GHG) จะดูดซับความร้อนไว้ส่วนหนี่ง ส่วนที่เหลือจะส่งผ่านไปยังโลก เมื่อเกิดการคลายความร้อน Greenhouse Gas (GHG) ก็ดูดซับความร้อนไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็ส่งออกนอกโลก ทำให้อุณหภูมิบนโลกคงที่และเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต

การมี Greenhouse Gas (GHG) ในปริมาณที่มากเกินพอดี โลกจะเป็นอย่างไร ?

เมื่อโลกได้รับรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ Greenhouse Gas (GHG) ที่สะสมอยู่ในปริมาณมากในชั้นบรรยากาศ จะทำให้การดูดซับและคลายความร้อนไม่สมดุลกัน ความร้อนจำนวนมากจะถูกกักเก็บไว้มากขึ้น ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก และนี่ก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

การสะสมของ Greenhouse Gas (GHG) ในชั้นบรรยากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้สภาพอากาศในโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง Global Warming (ภาวะโลกร้อน) หมายถึงอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ Climate Change (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์สุดขั้วมากมาย ตัวอย่างผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น ฤดูกาลแปรปรวน พายุรุนแรงขึ้น ธารน้ำแข็งละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และการแพร่ระบาดของโรคที่รุนแรงขึ้น ทั้งหมดนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศบนโลกใบนี้อย่างมาก

บริษัท แบ็กส์ แอนด์ โกล์ฟ ให้ความสำคัญกับ Greenhouse Gas (GHG) หรือก๊าซเรือนกระจกเป็นอย่างมาก โดยที่โรงงานผลิตของเรามี Project Net Zero คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 50% ภายในปี 2030 และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

บทความที่เกี่ยวข้อง

PCR คือ

ความรู้

พลาสติก PCR คืออะไร? ชวนรู้จักนวัตกรรมวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม

ปัญหาขยะพลาสติกกำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก การค้นหาวิ…

ความรู้

สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกด้วยมาตรฐาน OK Compost

รายละเอียดของบทความอย่างย่อ

ความรู้

การทดสอบความปลอดภัยของถุงมือสัมผัสอาหาร: มาตรฐานและการรับรอง

ถุงมือที่ใช้สัมผัสอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาความสะอ…

ความรู้

ถุงพลาสติก ย่อยสลายได้ นวัตกรรมรักษ์โลกที่ตอบโจทย์คนใช้งาน

ถุงพลาสติกย่อยสลายได้ คือถุงที่ผลิตจากวัสดุพิเศษที่สามา…